วันที่ 16 กันยายน 2568 เวลา 13.30-16.30 น. ณ ห้องประชุมทูน่า ชั้น 6
ตึกจุฬาภรณ์ กรมประมง
สมาคมฯ โดยดร.นันทิยา อุ่นประเสริฐที่ปรึกษาสมาคมฯ, นายบุญเลิศ ฝูงวรรณลักษณ์ นายทะเบียนสมาคมฯ, คุณเสาวนีย์ คำแฝง ผู้อำนวยการสมาคม, คุณนารีรัตน์ จันทร์ทอง รองผู้อำนวยการสมาคมฯ, คุณวาสนา ตรังใจจริง เจ้าหน้าที่สมาคมฯ, คุณศิริขวัญ วงศ์ราษฎร์ ผู้แทนจาก บจก. มารีนโกลด์ โปรดักส์ และนายสุทธิพันธ์ ฉ่ำคำ ผู้แทนจาก บมจ. ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป ประชุมหารือกับกองวิจัยและพัฒนาสุขภาพสัตว์น้ำ ถึงแนวทางลดการสุ่มตรวจโรคในกุ้งนำเข้าเอกวาดอร์ โดยมี ผอ.พุทธรัตน์ เบ้าประเสริฐกุล เป็นประธานการประชุม รวมถึง กองที่เกี่ยวข้อง อาทิ กองเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่ง, กองตรวจสอบคุณภาพสินค้าประมงและ กองตรวจสอบเรือประมง สินค้าสัตว์น้ำและปัจจัยการผลิต
ด้วยสมาชิกสมาคมฯ มีการนำเข้ากุ้งขาว เพื่อผลิตและส่งออก ตั้งแต่ปี 2565 โดยการนำเข้าเมื่อสินค้าถึงประเทศปลายทาง(ไทย) จะต้องสุ่มตัวอย่าง เพื่อตรวจโรคกุ้งว่าปลอดโรคจึงได้รับการอนุมัตินำเข้า ในส่วนนี้ผู้ประกอบการต้องรับภาระค่าใช้จ่ายในการตรวจโรคทั้งหมด ซึ่งมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก และจากการเก็บข้อมูลการตรวจโรคกุ้งตลอดระยะเวลา 3 ปี ตัวเลขลดลงอย่างมีนัยสำคัญ คุณชูพงษ์ ลือสุขประเสริฐ ประธานคณะอนุกรรมการกลุ่มสินค้ากุ้ง เห็นว่าควรเสนอให้ กรมประมงพิจารณา ลดการสุ่มตรวจโรคกุ้งนำเข้าจากสาธารณรัฐเอกวาดอร์
ที่ประชุม สมาคมฯได้เสนอ แนวทางลดการสุ่มตัวอย่างกุ้งนำเข้าจากเอกวาดอร์เดิม 10 ตู้ สุ่ม 1 ตู้ ขอเป็น 20 ตู้ สุ่ม 1 ตู้ และขอยกเว้นตรวจโรคกุ้ง 4 รายการ แบ่งเป็นโรคประจำถิ่น 2 รายการ (TSV, YHV1)และโรคอุบัติใหม่ 2 รายการ(DIV1, IMNV) ซึ่งตรวจไม่พบโรคตลอด 3 ปี ซึ่งเป็นข้อมูลที่นานและมากพอ สำหรับการยกเว้นตรวจโรคดังกล่าว และในอนาคตหากตรวจพบโรคลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ควรยกเว้นตรวจโรคตามข้อเท็จจริง ทั้งนี้สมาคมฯ ให้เหตุผลประกอบการขอลดการสุ่มตรวจโรค
กับกรมประมง ดังนี้
1. วัตถุดิบกุ้งนำเข้า ต้องมาจากโรงงานและฟาร์มที่ผ่านการขึ้นทะเบียนรับรอง โดยหน่วยงานที่มีอำนาจของสาธารณรัฐเอกวาดอร์ และต้องได้รับการอนุมัติจากกรมประมงไทย จึงสามารถนำเข้าได้ ซึ่งแสดงว่าโรงงาน/ห้องเย็นเอกวาดอร์มีมาตรฐาน GMP/HACCP, มีระบบตรวจสอบย้อนกลับตลอดห่วงโซ่การผลิต รวมถึงฟาร์มมีการควบคุมโรคที่ดี
2. ก่อนนำเข้าผู้นำเข้าต้องมีหนังสือรับรองสถานะว่าปลอดโรคแสดงต่อด่านตรวจประมงไทย จึงสามารถนำเข้ากุ้งได้และ ผลการตรวจโรคกุ้งด้วยวิธี PCR ตามข้อกำหนดของ OIE 7 โรค (TSV, YHV1, IHHNV, WSSV, IMNV, NHP, DIV1)
3. กุ้งนำเข้า เมื่อเข้าสู่กระบวนการผลิตของโรงงาน จะมีระบบฆ่าเชื้อในทุกขั้นตอน ตามที่กรมประมงกำหนด เช่น น้ำทิ้ง: ฆ่าเชื้อด้วยคลอรีน 200 ppm อย่างน้อย 1 ชั่วโมง, เศษซากกุ้งดิบที่เหลือจากการผลิตต้มด้วยอุณหภูมิ 95 องศาเซลเซียส 15-20 นาที, อุปกรณ์ต่างๆที่สัมผัสกับวัตถุดิบกุ้ง: ล้างและฆ่าเชื้อด้วยคลอรีน 200 ppm อย่างน้อย 30 นาที
4. หลายประเทศ เช่น อเมริกา/ ญี่ปุ่น/ ยุโรปไม่ตรวจโรคกุ้งด้วยเหตุผลสำคัญ:
4.1โรคในกุ้งไม่ติดต่อถึงคน
4.2 การตรวจโรคด้วยวิธี PCR มีต้นทุนสูง ใช้เวลานาน ดังนั้น หลายประเทศใช้การขอใบรับรองสุขภาพ (Health Certificate) จากประเทศผู้ส่งออกแทนใบรับรองผลการตรวจโรค และให้ความสำคัญกับสารตกค้างมากกว่า เนื่องจากส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคโดยตรง
5. โรคที่ตรวจพบส่วนใหญ่เป็นโรคประจำถิ่น และมีการตรวจพบในไทยอยู่แล้ว
คุณบุญเลิศ ฝูงวรรณลักษณ์ นายทะเบียนสมาคมฯ ได้ให้ข้อมูลในมุมมองทางการค้ากับกรมประมง ในด้านการตลาด, ความสามารถในการแข่งขันของไทยกับประเทศคู่แข่ง เช่นเวียดนาม/ อินเดีย/ เอกวาดอร์และ อินโดนีเซีย ซึ่งหากไทยไม่ปรับตัวจะไม่สามารถแข่งขันได้ รวมถึงประเด็นด้านภาษีตอบโต้ของสหรับอเมริกา (Reciprocal Tariff) ที่แต่ละประเทศได้รับ สำหรับไทย ร้อยละ 19 ก็ยังพอไปได้ เนื่องจาก ประเทศคู่แข่งอย่างประเทศเวียดนามได้ใกล้เคียงกัน แต่ของไทยยังไม่รวมภาษี Antidumping(AD) ที่จะประกาศในช่วงต้นเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งยังไม่รู้ว่าไทยจะได้อัตรา AD เท่าไร หากตัวเลขภาษี AD ออกมาสูง ส่งผลต่อการค้าตลาดอเมริการแน่นอน และอาจกระทบเป็นลูกโซ่ ถึงการเลี้ยงกุ้ง ปัจจัยต่างๆ ทำให้ไทยเสียเปรียบคู่แข่ง และค้าขายยากขึ้น
1. เรื่องขอลดตรวจตัวอย่างกุ้ง: กรมประมงรับพิจารณาลดการสุ่มตัวอย่าง ตามแนวทางที่สมาคมฯเสนอ คือ 20 ตู้ สุ่ม 1 ตู้และ ลดพารามิเตอร์ที่ตรวจไม่พบโรคตลอด 3 ปี แต่ต้องขอเสนอผ่านการประชุมคณะ Shrimp Board (หลังจากทราบรมต.กระทรวงเกษตรและ อธิบดีกรมประมงคนใหม่)
2. ประเด็นการถอดถอนรายชื่อผู้ส่งออกของเอกวาดอร์ ออกจากลิสต์ของกรมประมงที่อนุญาตให้นำเข้านั้น กรมประมงจะ suspend ก่อน โดยแจ้งรายชื่อบริษัท/ฟาร์มที่มีความเสี่ยงให้ทางสมาคมฯ ทราบก่อนล่วงหน้า และให้เวลา 30-45 วัน ก่อนที่กรมประมงจะแจ้งรายชื่อนั้นไปยังหน่วยงานที่มีอำนาจของเอกวาดอร์ (Competent Authority; CA)
ในช่วง 30-45 วัน ขอให้ทางโรงงานรีบแจ้งลูกค้าให้เตรียม Corrective Actions เมื่อกรมประมงแจ้งรายชื่อไปยังหน่วยงาน CA ของเอกวาดอร์…ให้ลูกค้ารีบส่ง Corrective Actions ให้กับCA เอกวาดอร์ทราบ เพื่อให้ทาง CA ของเอกวาดอร์ส่งข้อมูลกลับมายังกรมประมงไทย เพื่อพิจารณาอนุมัติต่อไป
ทั้งนี้ ในส่วนของโรงงานขอให้แชร์ข้อมูลรายชื่อผู้ส่งออกและฟาร์มของเอกวาดอร์ที่มีความเสี่ยงให้สมาคมฯ หลังจากที่โรงงานทราบผลการตรวจโรคแล้ว สมาคมฯ จะรวบรวมข้อมูลและแจ้งให้สมาชิกทราบข้อมูลที่ Realtime มากขึ้น เพื่อจะได้เลี่ยงซื้อจากบริษัท/ฟาร์มที่มีความเสี่ยง