วันอังคารที่ 23 กันยายน 2568 คุณวิบูลย์ สุภัครพงษ์กุล อุปนายกฯ เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการที่ปรึกษาโครงการ (Thailand National Programme Advisory Committee: PAC) ครั้งที่ 1 เวลา 13.30 น. ณ ห้องชั้น 6 โรงแรมอีสติน แกรนด์ พญาไท กรุงเทพฯ

สรุปสาระสำคัญ ดังนี้ 

กระทรวงแรงงานร่วมกับสำนักงานแรงงานระหว่างประเทศประจำประเทศไทย กัมพูชา และลาว (ILO Country Office for Thailand Cambodia and Lao People’s Democratic Republic) สหภาพยุโรป (European Union (EU)) องค์การระหว่างประเทศเพื่อการ

โยกย้ายถิ่นฐาน (International Organization for Migration (IOM)) และองค์กรอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (Food and Agriculture Organization of the United Nations (FAO)) จัดตั้งโครงการสิทธิจากเรือสู่ฝั่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ : การย้ายถิ่นเพื่อการทำงานที่ปลอดภัยและงานที่มีคุณค่าในเศรษฐกิจสีน้ำเงิน (Ship to Shore Rights SEA : Safe Migration for Decent Work in Blue Economy) 

วัตถุประสงค์

เพื่อส่งเสริมการย้ายถิ่นฐานอย่างปลอดภัยของแรงงานข้ามชาติและงานที่มีคุณค่าสำหรับห่วงโซ่อุปทานการประมงและอาหารทะเลอย่างยั่งยืน ซึ่งเริ่มตั้งแต่การทำประมง การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำไปจนถึงขั้นตอนการแปรรูป

หลังการทำประมงในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีทั้งผู้แทนภาครัฐ เอกชน ภาคประชาสังคม และILO 

โดยเป็นโครงการที่ดำเนินงานโดย 6 ประเทศ คือ กัมพูชา อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ไทย และพม่า 

กลุ่มเป้าหมายผู้ได้ประโยชน์ คือ แรงงานข้ามชาติในปัจจุบัน และผู้ที่มีแนวโน้มเป็นแรงงานข้ามชาติและแรงงานข้ามชาติที่กลับประเทศแล้วในเศรษฐกิจประมง รวมถึงการประมง การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ และแปรรูปอาหารทะเล รวมถึงครอบครัวและชุมชนของแรงงานข้ามชาติทั้งในประเทศต้นทางและปลายทาง

แรงงานข้ามชาติ ครอบคลุม : แรงงานข้ามชาติผู้ทำงาน

ในภาคประมงการจับปลา การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำและแปรรูปอาหารทะเล ครอบครัวและชุมชนของแรงงานข้ามชาติ เจ้าหน้าที่รัฐ องค์กรลูกจ้าง องค์กรนายจ้าง บริษัทจัดหางานและสมาคมฯ สมาคมอุตสาหกรรม องค์กรภาคประชาสังคม องค์กรชุมชนในท้องถิ่น

ประเด็นเป้าหมาย : สิทธิมนุษยชน ประชาธิปไตยและเสียงของแรงงาน การลดความเหลื่อมล้ำ ประเด็นแรงงานบังคับและค้ามนุษย์ การอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล และความยั่งยืน 

ระยะเวลาโครงการ : 1 มกราคม 2568- 31 ธันวาคม 2571 (48 เดือน)

ได้รับการสนับสนุนเงินโครงการ : จากสหภาพยุโรปจำนวน 11 ล้านยูโร 

หน่วยงานรับผิดชอบดำเนินการ : องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) องค์การระหว่างประเทศเพื่อการย้ายถิ่นฐาน (IOM) และองค์กรอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO)

ข้อเสนอที่ประชุม

1. ขอให้โครงการมีความมุ่งมั่นและให้ความสำคัญ ในเรื่อง แรงงานบังคับ แรงงานเด็ก งานที่มีคุณค่า การบังคับใช้กฎหมายให้มีประสิทธิภาพ แนวทางการสรรหางานที่ไม่เป็นธรรม การให้ความร่วมมือการจัดตั้งกลไกการประสานงานที่มีประสิทธิภาพ การผลักดันกฎหมายที่เกี่ยวข้องรวมถึงการบังคับใช้  ในด้านกฎหมายความกังวลในเรื่องระบบคุ้มครองต่างๆ เช่น ประกันสังคม และกองทุนเงินทดแทน รวมถึงการแก้ไขปัญหาด้านความปลอดภัย 

2. การสนับสนุนและเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่แรงงาน การให้ความรู้ การอบรมยังมีความจำเป็นทั้งสำหรับ

นายจ้างและแรงงาน 

เสนอให้มีระบบคุ้มครองที่เป็นมาตรฐานร่วมกันในภูมิภาคอาเซียน 

ซึ่งรวมถึงการแบ่งปันข้อมูลของแรงงานข้ามชาติ และการขจัดนายหน้า

ที่แสวงหาประโยชน์อย่างไม่เป็นธรรม ส่งเสริมการเจรจาทางสังคม ผลักดันให้เกิดกระบวนการสรรหางาน มีประสิทธิภาพมากขึ้น และค่าใช้จ่ายลดลง รวมถึงความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคประชาสังคม เพื่อแบ่งปันข้อมูลเรื่องการร้องเรียนและการเยียวยา รวมถึงสนับสนุนในเรื่องล่ามในหน่วยงานต่างๆ 

4. จัดตั้งศูนย์บริการข้อมูลแรงงานข้ามชาติ (MRC) หรือปรับปรุงศูนย์ ประสานงานแรงงานประมงของกรมการจัดหางานที่มีอยู่ประมาณ 30 แห่ง โดยมีการสนับสนุนจากภาคประชาสังคม พร้อมทั้งพัฒนาแอปพลิเคชัน

ข้อมูลข่าวสาร (ทั้งนี้ ขอให้พิจารณาแพลตฟอร์ม “มิตรไทย” ของ IOM ที่มีอยู่เดิมด้วย)

5. สนับสนุนการพัฒนาโครงการริเริ่มเพื่อเปลี่ยนทัศนคติของสาธารณชน

ต่อแรงงานข้ามชาติและการสื่อสารในแง่ลบ ผ่านสื่อและการประชาสัมพันธ์

นอกจากนี้ ที่ประชุมเสริมในเรื่องการสนับสนุนการรวมกลุ่มของแรงงาน การทำข้อตกลงการเจรจาร่วมเพื่อให้สอดคล้องกับอนุสัญญา ILO ฉบับที่ 87 และ 98

ในส่วน TFFA & TTIA ดำเนินโครงการในวัตถุประสงค์ที่ 3 คือ กิจกรรม SGLP (Seafood Good Labour Practices) 

กิจกรรมการดำเนินการต่อเนื่อง คือให้การอบรม ความรู้กับสมาชิก, กิจกรรม workshop ร่วมกับภาครัฐ สมาชิก และNGOs , การเข้าเยี่ยมสมาชิกประจำปีด้านแรงงาน , การจัดทำรายงานกิจกรรมแรงงานประจำปี 

ในส่วนกิจกรรมใหม่ในเฟสนี้ สมาคมฯ ได้เสนอขยายการดำเนินงาน ตามแนวปฎิบัติการใช้แรงงานที่ดีในภาคอุตสาหกรรมแปรรูปอาหารทะเล

SGLP (Seafood Good Labour Practices) ให้ครอบคลุมห่วงโซ่ อุปทานเพื่อส่งเสริมการปฏิบัติตามกฎหมายด้วยตนเองของนายจ้างและ

เสริมสร้างความเข้าใจที่ดีขึ้นเกี่ยวกับข้อมูลและนโยบายที่เกี่ยวข้องกับงานที่มีคุณค่า ความเท่าเทียม การตรวจสอบย้อนกลับ และการจัดการข้อร้อง เรียนในสถานที่ทำงาน รวมถึงการเสริมสร้างกลไกการร้องเรียน และการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับ ความรุนแรง การล่วงละเมิดทางเพศ และการยึดเอกสาร โดยเฉพาะในเรือประมงพร้อมทั้งต้องคำนึงถึงการรักษาข้อมูลความลับของแรงงาน

กลุ่มแรงงาน/องค์กรภาคประชาสังคม (CSOs) เรียกร้องให้นายจ้างส่งเสริมและสนับสนุนแรงงานในการพัฒนาทักษะ ความปลอดภัย สุขภาพและความปลอดภัยในการท างาน (OSH) และสิทธิแรงงาน