วันอังคารที่ 29 กรกฎาคม 2568 เวลา 08.30-11.30 น. ณ ห้องประชุมกุลาดำ ชั้น 7 อาคารจุฬาภรณ์ กรมประมง
สมาคมฯ โดยคุณอนุชา เตชะนิธิสวัสดิ์ นายกสมาคมฯ , คุณรักเกียรติ ธรรมมงคลชัย ไกล่เกลี่ยสมาคมฯ และ คุณซาห์ ไฟซอล อาลี คาน กรรมการสมาคมฯ และประธานคณะอนุกรรมการกลุ่มปลาน้ำจืด พร้อมด้วยสมาชิกสมาคมฯ กลุ่มผู้ผลิตและส่งออกปลาน้ำจืดและคุณเสาวนีย์ คำแฝง ผู้อำนวยการสมาคมฯ เข้าพบอธิบดีกรมประมง เพื่อหารือประเด็นปัญหาที่พบจากการผลิตและส่งออกปลาน้ำจืด โดยมีสาระสำคัญจากการประชุม ดังนี้
- กลุ่มผู้ประกอบการผลิตและส่งออกปลาน้ำจืดได้ชี้แจงในประเด็นหลักๆ ดังนี้
1. การผลิตและส่งออกปลาน้ำจืดของไทยยังคงมีความต้องการจากตลาดอยู่มาก อาทิ ปลานิล ปลาช่อน ปลายี่สก ปลาสวาย ปลาดุก ปลาสลิด อย่างไรก็ตาม ฟาร์มเพาะเลี้ยงปลาน้ำจืดที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน GAP (Good Aquaculture Practice) และมีหนังสือกำกับการจำหน่ายสัตว์น้ำ (Movement Document : MD) ยังน้อยอยู่ จึงอยากให้กรมประมงช่วยส่งเสริมการเพาะเลี้ยงปลาน้ำจืดและได้รับการรับรองมาตรฐาน GAP ให้มากขึ้น เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของการส่งออกปลาน้ำจืดไปยังต่างประเทศ
2. ปัจจุบันปลาน้ำจืดมีแนวโน้มตรวจพบสารตกค้างเพิ่มมากขึ้น จึงส่งผลให้ไม่สามารถส่งออกไปยังต่างประเทศหรือถูกปฏิเสธจากประเทศปลายทาง จึงขอให้กรมประมงให้ความรู้ ความเข้าใจกับเกษตรกร และผู้เกี่ยวข้อง เกี่ยวกับการใช้สารปฏิชีวนะ ยาสัตว์ และอาหารสัตว์ รวมถึงเพิ่มความเข้มงวดในการสุ่มตรวจสารตกค้างในฟาร์มเพาะเลี้ยงปลาน้ำจืด
3. ขั้นตอนและกระบวนการสุ่มตรวจตัวอย่างและการตรวจสอบเอกสารของกรมประมงค่อนข้างใช้เวลา จึงเสนอให้กรมประมงปรับขั้นตอนและกระบวนการให้เร็วขึ้น เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ผลิตและส่งออกปลาน้ำจืด
ทั้งนี้ กรมประมงรับทราบประเด็นปัญหาดังกล่าว โดย
- ประเด็นปริมาณปลาน้ำจืดที่เป็นที่ต้องการของตลาดนั้น กรมประมงจะประสานกับฟาร์มเพาะเลี้ยงปลาน้ำจืดในแต่ละชนิดที่เป็นที่ต้องการของตลาดและได้รับการรับรองมาตรฐาน GAP เพื่อจับคู่เจรจากับทางผู้ประกอบการผลิตและส่งออกปลาน้ำจืด
- ประเด็นเรื่องสารตกค้าง กรมประมงจะหารือกับสมาคมการค้าปัจจัยการผลิตสัตว์น้ำไทย รวมถึงเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงปลาเพื่อเพิ่มความระมัดระวังในการใช้ยาปฏิชีวนะ และจะจัดอบรมให้ความรู้กับเกษตรกรในแต่ละพื้นที่
- ประเด็นด้านความล่าช้าของขั้นตอนและกระบวนการสุ่มตัวอย่างและออกเอกสารนั้น กรมประมงรับไปหารือกับหน่วยงานภายในกรมประมงที่เกี่ยวข้องและจะเร่งปรับขั้นตอนและกระบวนการให้กระชับและรวดเร็วขึ้น เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการ
ทั้งนี้ สมาคมฯ ได้ขอบคุณกรมประมงที่รับฟังและร่วมหาแนวทางการแก้ไขปัญหาให้กับกลุ่มสมาชิกผู้ผลิตและส่งออกปลาน้ำจืด เพื่อให้การผลิตและส่งออกปลาน้ำจืดของไทยยังคงแข่งขันได้ในตลาดโลกต่อไป