วันที่ 2–4 กันยายน 2025 นางสาววาสนา ตรังใจจริง เจ้าหน้าที่สมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทย ได้รับมอบหมายให้เข้าร่วมงาน Global Shrimp Forum 2025 (GSF 2025) ครั้งที่ 4 ณ โรงแรม Van der Valk, เมืองอูเทรค ประเทศเนเธอร์แลนด์ จัดโดย Global Shrimp Forum Foundation การประชุม GSF 2025 เป็นการประชุมที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมกุ้งทั่วโลก ให้ผู้มีบทบาทในห่วงโซ่อุตสาหกรรมกุ้งจากทุกภาคส่วน อาทิ ผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์น้ำ, ผู้ประกอบการ, ผู้เพาะเลี้ยง, ผู้ผลิตอาหารสัตว์, ผู้ค้าปลีก, ผู้นำเข้า, นักลงทุน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในห่วงโซ่อุตสาหกรรมกุ้งได้มาพบปะ/ พูดคุย/ แลกเปลี่ยน องค์ความรู้ นวัตกรรม และร่วมกำหนดทิศทางในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมให้มีความรับผิดชอบและยั่งยืน ปีนี้ มีผู้เข้าร่วมงานกว่า 580 คน จากทุกภาคส่วนในห่วงโซ่อุตสาหกรรมกุ้ง งานสัมมนา GSF 2025 แบ่งออกเป็นวันที่ 2-4 กันยายน 2568 มีหัวข้อที่น่าสนใจหลายหัวข้อ อาทิ สรุปประเด็นสำคัญ ดังนี้
Export & Import Statistics โดย Willem van der Piji
เอกวาดอร์ (Ecuador) : ในปี 2024 ชะลอตัวเล็กน้อย การส่งออกเริ่มขยายตัวในครึ่งปีแรก 2025 (17%) ในเดือนพ.ค. 2025 ทำสถิติส่งออก >150,000 ตัน/เดือน สัดส่วนตลาดของเอกวาดอร์ปีนี้ คือ เอเชีย ร้อยละ 43 ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น เวียดนามและไทย,ตลาดยุโรป ร้อยละ 38 ได้แก่ ฝรั่งเศล สเปน และอิตาลี และตลาดสหรัฐอเมริกา ร้อยละ 13
- ด้านราคากุ้งเอกวาดอร์ เริ่มอ่อนตัว (ปริมาณขยายเร็ว แต่ราคาลดลง), เอกวาดอร์ขยายกำลังการผลิตมากขึ้น แต่ยังไม่ เพียงพอที่จะมาแทนตลาดอินเดียในสหรัฐฯ ในช่วงระยะเวลาอันสั้นนี้
- ด้านศักยภาพในการขยายพื้นที่การเลี้ยง เอกวาดอร์ยังมีพื้นที่ที่สามารถนำมาพัฒนาเป็นพื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำเพิ่มได้
อาจต้องใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยมากขึ้น
อินเดีย (India) : การส่งออกปี 2024 ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้น 3% และช่วงครึ่งปีแรก 2025 ขยายตัว 3 % ภาพรวมมีแนวโน้มทรงตัว แต่ต้องเผชิญกับความท้าทายเรื่องยาปฏิชีวนะ เช่น ยุโรปมีข้อกำหนด เรื่องห้ามใช้ยาปฏิชีวนะในสัตว์น้ำเพาะเลี้ยง จะบังคับใช้ในเดือน ก.ย. ปี 2026 แต่เป็นเรื่องยากที่จะควบคุมในประเทศขนาดใหญ่อย่างอินเดีย ทั้งนี้ สหภาพยุโรปต้องการให้อินเดียมีโปรแกรมเฝ้าระวังจากรัฐบาลอินเดีย เพื่อให้มั่นใจว่ายาปฏิชีวนะหรือสารต้องห้ามไม่ได้ถูกนำมาใช้ในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ
- ด้าน FTA อินเดีย กับ EU ยังอยู่ระหว่างเจรจา (เอกวาดอร์/ อินโดนีเซีย/ เวียดนาม ได้ลงนาม FTA กับ EU แล้ว)
- อินเดีย ลงทุนในตลาดปลานิลมากขึ้น ม.ค.-มิ.ย. 2025 ส่งออกปลานิลตัว 10,000 ตัน เพิ่มขึ้น 53% ทั้งปี~20,000 ตัน ตลาดส่งออกได้แก่ ตะวันออกกลาง เบงกอล และจะส่งไปยังตลาดอเมริกา แข่งกับเวียดนามและอินโดนีเซีย
-ผู้ผลิตในอินเดียกำลังเผชิญกับภาษี 58.26% (รวม AD+CVD)ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นตัวเลขที่ส่งผลกระทบต่อตลาดของอินเดียอย่างมาก อินเดียใช้เวลานาน ในการพัฒนาตลาดในอเมริกา ซึ่งผู้ส่งออกจะไม่ยอมปล่อยให้ตลาดนี้หายไป และในช่วงระยะสั้นๆ อินเดียมีตลาดรองรับ เช่น สภาพยุโรป/ เกาหลีใต้/ ญี่ปุ่น และตะวันออกกลาง
เวียดนาม (Vietnam): การส่งออกช่วงครึ่งปีแรกของปี 2025 ขยายตัว 14% และเวียดนาม มีตลาดหลากหลายมากที่สุด โดยเฉพาะในเอเชียและ โอเชียเนียกว่า 50% ผลิตทั้ง value-added และ reprocessing จากข้อมูลเวียดนามส่งออกกุ้งที่ผลิตได้เอง ประมาณ 280,000 ตัน/ปี
- เวียดนามมีบริษัทนำเข้า ~ 100 บริษัท แต่ละราย มียอดการนำเข้าระหว่าง 3,500-5,000 ตันในปี 2567 ที่ผ่านมา
- อินเดีย เป็น Supplier รายใหญ่ให้กับเวียดนาม รองจากเอกวาดอร์ อาร์เจนติน่า และพม่า
- เวียดนามเน้นนำเข้า เพื่อแปรรูปส่งออกเหมือนเดิม และกระจายตลาดเพื่อลดความเสี่ยงมากขึ้น
อินโดนีเซีย (Indonesia): การส่งออกเริ่มฟื้นตัวในไตรมาสแรกของปี 2025 ขยายตัว 13% หลังชะลอตัว ตั้งแต่ ปี 2023 และในเดือนพ.ค. 2025 ส่งออก 20,000 ตัน/เดือน อินโดนีเซีย ยังคงพึ่งพาตลาดสหรัฐฯสูง และได้รับภาษีร้อยละ 19 รวมถึงสถานการณ์ BMS ที่อาจทำให้การส่งออกชะลอตัวในไตรมาส 2
แนวโน้มการนำเข้า
สหรัฐฯ (USA): การนำเข้ากุ้ง ในช่วงครึ่งปีแรก 2025 ม.ค.-มิ.ย. 2568 ขยายตัว 18% จากการเร่งส่งสินค้าของผู้ส่งออกก่อนเก็บภาษีในไตรมาส 2 ปีนี้ ทั้งปีคาดว่า สหรัฐฯ นำเข้า ต่ำกว่า 800,000 ตัน โดยนำเข้าจากประเทศอินเดีย, เอกวาดอร์, อินโดนีเซีย เป็นหลัก
- จากที่อเมริกาได้ปรับอัตราภาษีของแต่ละประเทศนั้น ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคในอเมริกา โดยภาษีนำเข้าสะท้อนราคาขายปลีกในปัจจุบัน ซึ่งผู้ขายกังวล และไม่รู้ว่าผู้บริโภคจะสามารถรับราคาได้นานแค่ไหน
- ด้านความต้องการของผู้บริโภคในอเมริกายังคงมีความต้องการกุ้ง โดยเฉพาะในเดือนตุลาคม-มีนาคม และช่วงเข้าสู่เทศกาลต่างๆ
จีน (China): ปี 2024 จีนนำเข้ากุ้ง ~900,000 ตัน/ปี เทียบช่วงเดียวกันของปี 2024/ 2025 จีนนำเข้าลดลงเล็กน้อย (-4%)
- ด้านราคาคาดว่าอ่อนตัว โดยเฉพาะเอกวาดอร์ ราคาจะลดลงอีกเล็กน้อย
- ผู้บริโภคจีนโดยเฉพาะกลุ่มคนที่ทำงานในเมืองใหญ่ ค่อนข้างไม่มีเวลาในการทำอาหาร จึงมีความต้องการสินค้าที่พร้อมรับประทาน/ ปรุงสุก และการจัดส่งที่รวดเร็ว
- ด้านการผลิตกุ้งในจีน ยังไม่เพียงพอสำหรับการบริโภคในประเทศ จีนจึงเน้นนำเข้ากุ้งจากกุ้งเอกวาดอร์และอินเดียมากขึ้น เนื่องจากสินค้ากุ้งมีคุณภาพดีและสม่ำเสมอ
สหภาพยุโรป (EU-27): ในช่วงครึ่งปีแรก 2025 การนำเข้าขยายตัว 21 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกัน โดยเฉพาะกุ้งขาวดิบ และกุ้งแปรรูป และปีนี้ทั้งปี คาดว่าจะนำเข้าประมาณ 400,000 ตัน โดยนำเข้าจากเอกวาดอร์และ เวียดนามเป็นหลัก ปี 2024 ที่ผ่านมา พบว่าการรับประทานอาหารในร้าน ลดลง 25% ในปีนี้ 2025 ฝรั่งเศสมีแนวโน้มการบริโภคเพิ่มขึ้น ซึ่งมีแรงขับเคลื่อนจากคนรุ่นใหม่ที่นิยมบริโภคอาหาร เพื่อสุขภาพ และปลอดภัย สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ อย่างไรก็ตามฝรั่งเศส และสเปน ยังเป็นตลาดอาหารทะเลที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป
ญี่ปุ่น (Japan): การนำเข้าทรงตัว ประมาณ 300,000 ตัน/ปี แต่ช่วงครึ่งปีแรก 2025 ขยายตัว 6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกัน ล่าสุดเอกวาดอร์แซงไทย เป็น Supplier หลักส่งประเทศญี่ปุ่น รองจากเวียดนาม และอินโดนีเซีย