ประชุมพิจารณาเปลี่ยนแปลงอัตราหลักประกันในการนำคนต่างด้าวมาทำงานกับนายจ้างในประเทศ
วันที่ 20 ตุลาคม 2568 คุณวิบูลย์ สุภัครพงษ์กุล รองประธานกรรมการหอการค้าไทย และประธานคณะกรรมการแรงงานและพัฒนาฝีมือแรงงาน พร้อมด้วยคุณธนาศักดิ์ กิจรุ่งโรจน์ รองประธานคณะกรรมการแรงงานและพัฒนาฝีมือแรงงาน ได้เข้าร่วมประชุมพิจารณาเปลี่ยนแปลงอัตราหลักประกันในการนำคนต่างด้าวมาทำงานกับนายจ้างในประเทศ (กรณีหลักประกันของนายจ้าง) โดยมีรองอธิบดีกรมการจัดหางาน (คุณมงคล สงคราม) เป็นประธานการประชุม ซึ่งการประชุมมีสาระสำคัญ ดังนี้
พิจารณาเปลี่ยนแปลงอัตราหลักประกันในการนำคนต่างด้าวมาทำงานกับนายจ้างในประเทศ (กรณีหลักประกันของนายจ้าง) สืบเนื่องจากพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม กำหนดให้นายจ้างผู้ประสงค์จะนำคนต่างด้าวจากต่างประเทศเข้ามาทำงานในประเทศ ต้องวางหลักประกันต่ออธิบดีกรมการจัดหางาน เพื่อเป็นหลักประกันการปฏิบัติให้เป็นไปตามพระราชกำหนดฯ ในอัตรา 1,000 บาทต่อคนต่างด้าวหนึ่งคน นั้น
ความเป็นมา
สมาชิกสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ได้มีหนังสือร้องเรียนมาถึงกระทรวงแรงงาน โดยเห็นว่าการกำหนดหลักประกันอัตราเดียวดังกล่าวอาจก่อให้เกิดภาระต้นทุนสูงแก่กิจการขนาดใหญ่ที่นำแรงงานต่างด้าวเข้ามาทำงานจำนวนมาก จึงเสนอให้กรมการจัดหางานพิจารณาทบทวนแนวทางการกำหนดหลักประกันใหม่ โดยเสนอให้กลับไปใช้หลักการเดิม ปี พ.ศ. 2559 ที่กำหนดให้นายจ้างที่นำคนต่างด้าวเข้ามาทำงานวางหลักประกันในอัตรา 1,000 บาทต่อคน และหากนำคนต่างด้าวมาทำงานตั้งแต่ 100 คนขึ้นไป ให้วางหลักประกัน 100,000 บาท ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความเหมาะสมระหว่างขนาดของกิจการกับภาระค่าใช้จ่ายของนายจ้าง รวมถึงสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน
อย่างไรก็ดี เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปด้วยความเหมาะสมเกี่ยวกับการกำหนดเพดานสูงสุดของหลักประกันของนายจ้าง กรมการจัดหางาน จึงขอให้ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย จัดทำหนังสือเพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวประเด็นปัญหาและผลกระทบที่ผู้ประกอบการได้รับความเสียหายจากการกำหนดหลักประกันอัตราเดียวดังกล่าวในปัจจุบัน ซึ่งหากสามารถให้ข้อมูลเป็นตัวเลขความเสียหายทางเศรษฐกิจ และปัญหาอย่างรอบด้านครอบคลุมทุกมิติได้ยิ่งเป็นข้อมูลที่ดี เพื่อให้กรมจัดหางานได้รวบรวมข้อมูลเสนอไปยังผู้บริหาร และดำเนินการเสนอเรื่องเข้าสู่วาระในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว (คบต.) โดยมีรัฐมนตรีว่ากระทรวงแรงงานเป็นประธาน ซึ่งหากมติที่ประชุม คบต. เห็นชอบ ลำดับถัดไป สามารถเสนอเข้าสู่การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ตามลำดับถัดไป
มติที่ประชุม เห็นชอบให้ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ทำหนังสือเพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมกลับมายัง กรมการจัดหางาน เพื่อเตรียมข้อมูลเสนอเข้าวาระการประชุม คบต. ต่อไป
รับทราบกฎกระทรวงการอนุญาตประกอบธุรกิจการนำคนต่างด้าวมาทำงานกับนายจ้างในประเทศและหลักประกันในการนำคนต่างด้าวมาทำงานกับนายจ้างในประเทศ พ.ศ. 2564 ตามที่พระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 46 กำหนดไว้ว่า อธิบดีจะกำหนดให้นายจ้างที่นำคนต่างด้าวเข้ามาทำงานกับตนวางหลักประกัน เพื่อประกันการปฏิบัติให้เป็นไปตามราชกำหนดนี้ ทั้งนี้ การวางหลักประกัน อัตราของหลักประกัน การเก็บรักษาหลักประกัน การหักหลักประกัน การเปลี่ยนแปลงหลักประกัน การเรียกหลักประกันเพิ่ม การวางหลักประกันเพิ่ม และการรับหลักประกันคืน ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง
รับทราบประกาศกรมการจัดหางาน เรื่อง กำหนดอัตราค่าใช้จ่ายในการจัดส่งคนต่างด้าวกลับไปยังประเทศต้นทางของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมืองและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ลงวันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 โดยกำหนดอัตราค่าใช้จ่ายในการจัดส่งคนต่างด้าวกลับไปยังประเทศต้นทางตามมาตรา 50 วรรคห้า ดังนี้
(1) กรณีส่งคนต่างด้าวกลับไปยังราชอาณาจักรกัมพูชา สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ให้อัตราค่าใช้จ่ายเป็นไปตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกินจำนวน 2,500 บาทต่อคนต่างด้าวหนึ่งคน
(2) กรณีส่งคนต่างด้าวกลับไปยังสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ให้อัตราค่าใช้จ่ายเป็นไปตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกินจำนวน 8,200 บาทต่อคนต่างด้าวหนึ่งคน
(3) กรณีส่งคนต่างด้าวกลับประเทศอื่น นอกจาก (1) และ (2) ให้อัตราค่าใช้จ่ายเป็นไปตามที่จ่ายจริง
Cr.Agri&Food TCC&BOT
Public on 6th September 2022
Copyright of Thai Frozen Foods Association