พบอธิบดีกรมการจัดหางาน หารือความร่วมมือนโยบายด้านแรงงาน

เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2568 เวลา14.30-15.30 น ณ ห้องประชุมกรมการจัดหางาน ชั้น 10 กระทรวงแรงงาน

หอการค้าไทย คุณวิบูลย์ สุภัครพงษ์กุล รองประธานกรรมการ หอการค้าไทย และประธานคณะกรรมการแรงงานและพัฒนาฝีมือแรงงาน พร้อมด้วย ผศ.วาทิน หนูเกื้อ รองประธาน  และสมาคมการค้า โดยคุณอนุชา  เตชะนิธิสวัสดิ์ นายกสมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทย และ คุณอรรถการ มาศรังสรรค์ ที่ปรึกษา สมาคมอุตสาหกรรมทูน่าไทย เข้าพบอธิบดีกรมการจัดหางาน (นายพิเชษฐ์ ทองพันธ์) หารือความร่วมมือนโยบายด้านแรงงาน โดยสรุปประเด็นหารือ ดังนี้

🇹🇭🇨🇳การจัดงาน JOB FAIR ในงาน Thailand-China Cooperation Expo 2025 โดยมีความคืบหน้าจาก บริษัทจีนและไทย มาร่วมออกบูธใน Zone Job Fair จำนวนมากกว่า 50 บริษัท มีความต้องการจ้างงาน 3,620 อัตรา (306 ตำแหน่ง) ทั้งนี้ กรมการจัดหางาน ยินดีสนับสนุนและประชาสัมพันธ์ให้ จัดหางานจังหวัด เชิญชวนประชาชน นักเรียน และนักศึกษาเข้าร่วมงานฯ พร้อมทั้งจะดำเนินการประสานงานกระทรวงกลาโหม เพื่อเชิญชวนกลุ่มทหารเกณฑ์ และ กระทรวงพัฒนาสังคมฯ เพื่อเชิญกลุ่มคนพิการ/ผู้สูงอายุ เข้าร่วมงานฯ อย่างน้อยวันละ 200 คน

รับทราบข้อเสนอให้พิจารณาทบทวนหลักเกณฑ์การวางหลักประกันในการนำเข้าแรงงานต่างด้าว 

โดยเสนอให้ทบทวนและกลับไปใช้กฎกระทรวงการขอใบอนุญาต การออกใบอนุญาต การต่ออายุใบอนุญาต และการกำหนดหลักประกันในการนำคนต่างด้าวมาทำงานกับนายจ้างในประเทศ พ.ศ. 2559 ข้อ 22 (2) กรณีนำคนต่างด้าวมาทำงานตั้งแต่หนึ่งร้อยคนขึ้นไป ให้วางหลักประกันเป็นจำนวนหนึ่งแสนบาท

การจัดตั้งศูนย์ออกเอกสารรับรองบุคคล (CI) ซึ่งกำหนดไว้ 4 แห่ง คือ จังหวัดสมุทรสาคร สมุทรปราการ สุราษฎร์ธานี และเชียงใหม่  ซึ่งในส่วนภาคใต้ตอนล่างไม่สามารถรองรับแรงงานต่างด้าวได้เพียงพอ ตามกำหนดระยะเวลาการออก CI ที่กำหนด ตั้งแต่ 6 สิงหาคม 2568 - 6 พฤศจิกายน 2568 เสนอให้จัดตั้งเพิ่มที่สงขลา

ที่ประชุมรับทราบการเสนอให้จัดตั้งศูนย์ออกเอกสารรับรองบุคคล (CI) ในจังหวัดสงขลา เพื่อให้เพียงพอต่อการบริการแรงงานต่างด้าวในพื้นที่รองรับกลุ่มแรงงานดังกล่าวให้แล้วเสร็จตามระยะเวลาที่กำหนด

ทั้งนี้ คุณอนุชามีการเสนอประเด็นเพิ่มเติมในเรื่อง แรงงาน MOU ที่ทำงานกับนายจ้างเก่าไม่ครบตามสัญญา 2 ปี แล้วมีการเปลี่ยน ซึ่งแม้ในกฎหมายจะชัดเจนในเงื่อนไขการย้ายงาน หรือ/และ ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นกับนายจ้างเก่า เมื่อเปลี่ยนงาน นายจ้างใหม่ต้องรับผิดชอบจ่ายให้กับนายจ้างเก่า แต่เมื่อปฏิบัติจริง ไม่สามารถทำได้  ทำให้เป็นต้นทุนที่นายจ้างต้องแบกรับ ซึ่งที่ประชุมมีการแสดงความเห็น เช่น จัดตั้งศูนย์ที่จะแรงงานต่างด้าวสามารถแจ้งย้ายงาน เปลี่ยนงานใหม่ นายจ้างมาหาแรงงานใหม่, หรือนายทะเบียนตรวจเอกสารสาเหตุย้ายงาน และนายจ้างใหม่ที่รับแรงงานจ่ายเงินชดเชยให้นายจ้างเก่า รวมถึงมีศูนย์ชายแดนให้ดำเนินการสำหรับแรงงาน MOU ที่หมดอายุ และดำเนินการกระชับ เวลาสั้น และให้แรงงานสามารถทำงานต่อหรือเปลี่ยนนายจ้าง แล้วทำงานต่อได้ 

จากประเด็นนี้ ท่านอธิบดีฯ เห็นควรว่าจัดประชุมกลุ่มเล็ก ร่วมกันรัฐ เอกชนที่เกี่ยวข้อง ให้มีข้อเสนอหลากหลาย เพื่อนำมาพิจารณาในการขับเคลื่อนเพื่อให้สามารถปฏิบัติได้จริงตามกฎหมาย นายจ้างเก่าและใหม่มีกลไกการย้าย/เปลี่ยนงาน แรงงานย้าย/เปลี่ยนงานได้ มีเอกสารชัดเจน ไม่ต้องกลายเป็นแรงงานผิดกฎหมาย มีความโปร่งใส หน่วยงานภายนอก ILO CSOs ตรวจสอบได้ 


Public on 6th September 2022
Copyright of Thai Frozen Foods Association