Thailand Multi-Stakeholders meeting
มูลนิธิสถาบันอิสราได้จัดการประชุมสัมมนาผู้เมีส่วนได้ส่วนเสียหลายฝ่าย “Thailand Multi-Stakeholders meeting เพื่อส่งเสริมการเข้าถึงการเยียวยาและการเตรียมความพร้อมด้าน HRDD สำหรับภาคธุรกิจไทย ณ โรงแรม Westin Grande Asoke Hotel เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2568 โดยมีคุณนารีรัตน์ จันทร์ทอง รองผู้อำนวยการสมาคมฯ เข้าร่วมสัมมนา
โดยสรุปดังนี้
(1)สถานการณ์ด้านแรงงานปัจจุบัน
(-)แรงงานข้ามชาติ (พม่า กัมพูชา ลาว และเวียดนาม) มีประมาณ 3 ล้านคนในประเทศไทย แบ่งเป็นพม่ากว่า 2 ล้านคน ,กัมพูชา 4 แสนคน และที่เหลือเป็นลาว เวียดนาม
(-)ใน1 ปี ประเทศไทยมีรมว แรงงานถึง 3 คน ทำให้นโยบาย การบริหารงานต่างๆ เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ไม่ต่อเนื่อง สิ่งที่กังวลคือ แรงงานที่ต้องดำเนินการต่ออายุที่จะต้องทำให้แล้วเสร็จภายใน 13 ธค 2568 และต้องดำเนินการทำวีซ่าให้แล้วเสร็จ 13 กพ 2569 ซึ่งแรงงานจะอยู่ทำงานได้ถึง 13 กพ2570 ปัจจุบันยังไม่มีระเบียบดำเนินการ และหากที่นายกฯ อนุทิน ตามที่ท่านจะยุบสภากลาง ธค 2568 จะส่งผลกระทบกับกลุ่มคนงานกลุ่มนี้อย่างมาก ซึ่งคาดการณ์ว่ามีประมาณ 7-8 แสนคน
(-)กท แรงงาน มีเป้าหมายที่ให้แรงงานข้ามชาติถูกกฎหมายทุกคน โดยเป็นการเข้ามาผ่านระบบ MOU ทั้งหมด ซึ่งเมื่อดูตัวเลขเปรียบเทียบ ตค 2567-ตค2568 พบ พม่า แรงงานที่เข้ามาระบบ MOU ลดลง 7-8 หมื่นคน (ปัญหาในประเทศพม่า) กัมพูชา ไม่มีกระบวนการนำเข้า MOU และลาวมี MOU แต่แรงงานเข้ามาน้อย เต็มที่ 5 แสนคน (ลาวมีจำนวนประชากรไม่มาก) ในส่วนนโยบายนำเข้าแรงงานศรีลังกามาทำงานในไทย ภาครัฐต้องมีแผนระยะยาวที่ชัดเจน นำเข้ามาจำวนเท่าไร เพื่อทดแทนแรงงานในกลุ่มอุตสาหกรรมใด หรือเกษตรกรรมแบบใด และในทางปฏิบัติแรงงานสามารถและชำนาญในด้านนั้นจริงหรือไม่
(-)ปัญหาภายในของพม่า และปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
(-)เทคโนโลยีการขึ้นทะเบียน e-WorkPermit ที่เริ่มนำมาใช้ พบปัญหาติดขัดหลายอย่าง เช่น ระบบไม่สามรถเข้าถึงฐานข้อมูลเดิมได้ ทำให้เกิดความล่าช้าในการขึ้นทะเบียน
(2)(ร่าง) พรบ ส่งเสริมการดำเนินธุรกิจที่มีความรับผิดชอบ พ.ศ. ได้มีการร่างขึ้น โดยเดิมที่กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม ได้นำหลักการ HRDD ซึ่งเป็นมาตรฐานของ EU มาใช้แบบสมัครใจ แต่ขณะนี้อยู่ระหว่างการเขียนร่างเพื่อออกเป็นกฎหมาย เพื่อนำไปเป็นภาคบังคับ กับบริษัทขนาดใหญ่ (ตามนิยามของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า)
(3)HRDD มี 6 ขั้นตอน คือ
(-)การระบุและประเมินผลกระทบ
(-)การยุติ ป้องกัน และบรรเทาผลกระทบ
(-)การเยียวยา
(-)การติดตามและตรวจสอบความคืบหน้า
(-)การเสริมสร้างนโยบายและระบบ
(-)การสื่อสารความคืบหน้าและผลลัพธ์
(4)(ร่าง) กฎหมายฉบับนี้ ยังมีประเด็นถกเถียง(-)คือ ระยะเวลาการดำเนินการที่ต้องรายงานผลยื่นให้คณะกรรมการที่ตั้งขึ้น ในกรณีต้องมีการเยียวยา และตั่งกลไกการร้องทุกข์ ซึ่งอยากให้เป็นทุก 5 ปี เนื่องจากกฎหมายไทยทบทวนทุก5 ปี
(-)การบังคับใช้กฎหมายนี้กับบริษัทใหญ่ ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าถ้าบริษัทขนาดกลาง แต่มีการใช้แรงงานจำนวนมากควรจะถูกบังคับใช้กฎหมายนี้ด้วย
(-)กฎหมายนี้ครอบคลุมทั้งห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งหากพบการไม่ปฏิบัติตามกฎหมายในบริษัทผู้ผลิตเอง จะสามารถดูแลแก้ไขได้ง่าย แต่หากพบใน supply chain จะสามารถแก้ไขและบังคับให้ปฏิบัติได้อย่างเต็มที่หรือไม่
(-)เป็นกฎหมายที่จะมีบทลงโทษปรับ ตามกฎหมายปกครอง แต่บางส่วนเสนอควรมีโทษจำคุกด้วย
(-)กฎหมายแรงงานเกี่ยวข้องกับหลายกระทรวง เช่น กท.แรงงาน, กท.พัฒนาสังคมและความมั่นคงมนุษย์ และกท. ยุติธรรม จึงควรออกกฎหมายเพื่อให้ไม่ทับซ้อนกัน
ทั้งนี้ การเสริมสร้างองค์ความรู้เกี่ยวกับเรื่องธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน จะช่วยให้ภาคธุรกิจมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกรอบนโยบายและมาตรฐานต่าง ๆ ในเรื่องธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน ตลอดจนเป็นการเตรียมความพร้อมในการดำเนินธุรกิจอย่างรับผิดชอบและเคารพสิทธิมนุษยชน ก่อนที่กฎหมายดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ต่อไป
Public on 6th September 2022
Copyright of Thai Frozen Foods Association